เซเรียอา สั่งแบน คราปารี่ 2 นัด

เซเรียอา สั่งแบน คราปารี่ กองหน้า เบเนเวนโต้ 2 นัด

เซเรียอา

    เนื่องจาก จานลูก้า คาปรารี่ กองหน้า เบเนเวนโต้ ถูกใบแดง ติดคาดโทษ ทำให้ต้องพลาดการลงสนาม 2 นัดติด ในเซเรีย อา ในขณะที่ ลูกัส มาร์ติเนซ กวาร์ต้า กองหลัง ฟิออเรนติน่า ถูกพักแข่ง 1 เกม

    เมื่ออดีต หัวหอก ซามพ์โดเรีย และ ปาร์ม่า ถูกไล่ออก ระหว่าง เกมที่ แพ้ ต่อ เฮลลาส เวโรน่า 1-3 ประตู เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และจะได้รับโทษแบน 2 นัดติด

คณะกรรมการด้านวินัย ยืนยัน การห้าม เขาลงแข่งขัน 2 เกม หลังจากที่ ดาวเตะวัย 27 ปี ทำผิดกฎดู ถูกทีมงาน ผู้ตัดสิน ที่ เวโรน่า

สำหรับ คราปารี่ นั้นโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในลีกสูงสุดซีซั่นนี้ โดยลงเล่นในลีกไปแล้ว 6 นัด ยิงไป 3 ประตู และทำไป 2 แอสซิสต์

ด้านกองหลังวัย 24 ปี ของ ฟิออเรนติน่า นั้นถูกไล่ออกในเกมกับ โรม่า ที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเขาจะพลาดลงเล่นในเกม นัดถัดไปกับ ปาร์ม่า

เซเรียอา

(อังกฤษ: Panama Canal) เป็นคลองเดิน เรือสมุทรควา มยาว 77 กิโลเมตร สร้างขึ้นบริเวณคอคอดป านามาในประ เทศปานามา เพื่อเชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติ กเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาที่ต้องไปอ้อมช่อ งแคบเดรกและแหลมฮอร์น ทางใต้สุดของทวีปอเม ริกาใต้ คิดเป็นระ ยะทางกว่า 22,500 กิโลเมตร[1] ซึ่งมีผลอย่างยิ่ งต่อการเดินเรือระหว่าง สองมหาสมุทร โดยถูกใช้เป็นเส้นทางเดินเรือหลักสำหรับ การค้าทางทะเลระ หว่างประเท ศ ตั้งแต่เปิดทำการ คลองปานามาป ระสบความสำเร็จแ ละเป็นกุญแจสำคัญใ นการขนส่งสินค้าทั่วโลก จำนวน เรือที่ผ่านคล องปานามาเพิ่มขึ้นจาก 1,000 ลำต่อปีในยุคแรกเริ่ม มาเป็น 14,702 ลำต่อปี ในปี ค.ศ. 2008 มีระวางขับน้ำรวมทั้งสิ้น 309.6 ล้านตัน (คิดเป็นประมาณ 40 ลำต่อวัน ประมาณร้อยละ 5 ของเรือ บรรทุกสินค้าทั่วโลก)

แนวความ คิดในการขุดคลองปานา มามีมาตั้งแต่ค ริสต์ศตวรรษที่ 16 ก่อนที่จะเริ่มการก่อสร้างครั้งแรกในปี ค.ศ. 1880 โดยบริษัทสัญชาติฝ รั่งเศสภายใ ต้การบริหารของนายแฟร์ดินองด์ เดอ เลสเซ็ปส์ แต่ก็ล้มเหลวไป มีคนงานกว่า 21,900 คนเสียชีวิต มักมีสาเหตุจ ากโรคระบาด (มาลาเรียหรือไข้เหลือง) และดินถล่ม จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาเข้ามาดำเนินงานต่อ โดยมีผู้เสียชีวิตราว 5,600 คน จนกระทั่งสามารถเปิดใช้งานได้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1914 นับเป็นหนึ่งในโคร งการวิศวกรรมที่ใหญ่ที่สุดและยากลำบากที่สุดที่เคยมีมา\

หลักฐานที่มีการอ้างถึงคอคอดในอเมริกากลาง ย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 1524 เมื่อจักรพรรดิแห่ งจักรวรรดิโ รมันอันศักดิ์สิท ธิ์และกษัตริย์แ ห่งสเปนพ ระองค์หนึ่ง มีพระนามว่า จักรพรรดิชาลส์ที่ 5 ได้ทรงแนะนำว่า การสร้างคลองผ่านปานามา จะสร้างความสะดวกใน การเดินเรือสัญจ รไปมาระหว่ างสเปนกับเปรู[3] รวมไปถึงสร้างความได้เปรียบทางยุทธวิธีเหนือโปรตุเกส[4] ระหว่างการสำ รวจโด ยคณะสำ รวจของพระองค์ระหว่างปี ค.ศ. 1788-1793 โดย อเลสซานโดร มาลาสปินาได้เสนอความเป็นไปได้และวาง แผนโครงสร้ างของคลอง[5]

ฟุตบอลยูโรปา ลีกวามคิดในเรื่อ

อเมริกากลางถือ เป็นจุดยุทธศาสตร์ คือเป็นแ ผ่นดินที่มีลักษณะแคบ แบ่งโดยมหาสมุทรขนาดใหญ่ 2 มหาสมุทร ความพยายามที่ จะเชื่อมการค้าเกิ ดขึ้นมานานหลายปี แล้วในบริเวณนี้ ในปี ค.ศ. 1698 สกอตแลนด์ ได้พยายา มเข้ามาตั้งฐานการค้าบริเวณคอคอดปานามา โดยใช้แผนดารีเอน แต่เนื่องจากเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ไม่เอื้ออำนวย ในที่สุดก็ได้ออกจากปานามาไปในปี ค.ศ. 1700[6] และในที่สุดการรถไฟในปานามาก็ได้เกิดขึ้นเพื่อข้ามคอคอดนี้ได้เปิดใช้ในปี ค.ศ. 1855 เส้นทางสัญจรนี้ได้เอื้อหนุนให้การค้ามีความสะดวกขึ้น และเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญของการเลือกสร้างคลองเชื่อมคอคอดปานามาในภายหลัง

การรื้อฟื้นแนวความคิดในเรื่องการเชื่อมทางน้ำต่อกันระหว่างมหาสมุทรทั้ง 2 มหาสมุทรเกิดขึ้นอยู่หลายครั้งหลายครา อย่างทางเชื่อมผ่านนิการากัวก็ได้มีการสำรวจอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งคลองปานามา เองเป็นหนึ่งในสองโครงการขุดคลองที่เคยดำริมาตั้งแต่ยุคสเปนเรืองอำนาจคริสต์ศตวรรษที่ 16 แล้ว[7] จนในที่สุด การประสบความสำเร็จของการสร้างคลองสุเอซ รัฐบาลโคลอมเบียได้ให้สัมปทานกับนักผจญภัยชาวฝรั่งเศสชื่อ ลูเซียง นโปเลียน โบนาปาร์ต ไวส์ ในการขุดคลองซึ่งจะเชื่อมระหว่างสองมหาสมุทรในบริเวณจังหวัดปานามา และเขาได้ขายสัมปทานต่อให้กับบริษัทฝรั่งเศสที่บริหารโดยนายแฟร์ดีนอง เดอ เลสเซป ซึ่งดำเนินการขุดคลองปานามาในทันที[8] เขาได้เริ่มขุดคลองจากระดับน้ำทะเล (โดยไม่มีประตูกั้นน้ำ) เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1880 บริษัทฝรั่งเศสได้ทำงานอย่างรีบเร่งโดยขาดการศึกษาที่เพียงพอทั้งทางด้านภูมิประเทศและอุทกวิทยา[9] อีกทั้งโรคภัยไข้เจ็บในภูมิอากาศเขตร้อนที่คนงานก่อสร้างคลองต้องเผชิญทั้งโรคไข้เหลืองและมาลาเรีย คร่าชีวิตคนงานเป็นจำนวนมากและทำให้การก่อสร้างไม่คืบหน้าเท่าที่ควร[8] เป็นเหตุให้คนงานต่างหวาดกลัวและหนีกลับฝรั่งเศส[9] ในปี ค.ศ. 1883 บริษัทฝรั่งเศสที่ได้สัมปทานไม่สามารถทำงานต่อได้ เนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บและความลำบากในการขุดคลองในระดับน้ำทะเล การขาดประสบการณ์ภาคสนามของคนงาน อย่างเช่น การเก็บเครื่องมือที่เจอห่าฝนไม่ดี ทำให้เกิดสนิมจับ[10] แต่ปัญหาหลักคือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้น นับจำนวนคนที่เสียชีวิตระหว่างการขุดคลองปานามา (ระหว่างช่วงปี ค.ศ. 1881 – 1889) ได้กว่า 22,000 คน[9]

จากหนังสือ Overthrow ของสตีเฟน คินเซอร์ในปี ค.ศ. 2006 ได้กล่าวไว้ว่าในปี ค.ศ. 1898 หัวหน้าคนหนึ่งในองค์การเกี่ยวกับคลองของฝรั่งเศส คือ ฟีลีป-ชอง บูโน-วารียา ได้จ้างวิลเลียม เนลสัน ครอมเวลล์ เพื่อโกงจากสภาคองเกรสของอเมริกา ที่จะสร้างคลองปานามา ไม่ใช่คลองที่ข้ามจากนิการากัว[11]

โดยสหรัฐอเมริกาได้เจรจากับรัฐบาลโคลอมเบียว่า หากสหรัฐอเมริกาลงทุนขุดคลองแล้วก็ขอให้สหรัฐอเมริกาเช่าพื้นที่บริเวณนั้นเพื่อดำเนินการควบคุมการเข้าออกของเรือที่ผ่านคลอง แต่การตกลงเรื่องราคาค่าเช่าที่ไม่ลงตัว รัฐบาลโคลอมเบียไม่ตกลงกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนั้นชาวปานามากลัวว่าโคลอมเบียจะไม่แบ่งผลประโยชน์ให้เท่าที่พวกตนควรได้ จึงได้ก่อการปฏิวัติขึ้นและประกาศตัวเป็นประเทศเอกราช ซึ่งสหรัฐอเมริกาเองได้รับรองการเป็นเอกราชของปานามา และยังได้ช่วยไม่ให้โคลอมเบียยกกองทหารเข้ามาปราบปรามชาวปานามา จนในที่สุดสหรัฐอเมริกาได้ทำสัญญากับปานามาในปี ค.ศ. 1903[12] โดยปานามายกกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นระยะทางกว้าง 10 กิโลเมตร ตลอดแนวทางที่สหรัฐอเมริกาจะขุดคลอง และรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ดำเนินการบริหารเป็นสิทธิขาดตลอดไป โดยสหรัฐอเมริกาจะจ่ายเงินตอบแทนให้ปานามาเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านดอลลาร์ และจะให้เป็นประจำทุกปี อีกปีละ 250,000 ดอลลาร์[8] ส่วนสหรัฐอเมริกาก็ได้จ่ายเงินให้แก่โคลอมเบียเป็นเงิน 25 ล้านดอลล่าร์ในปี ค.ศ. 1921 และรัฐบาลโคลอมเบียรับรองความเป็นเอกราชของปานามาในสนธิสัญญาธอมสัน-อูรูเตีย

บทความก่อนหน้า